จ.ลำปาง ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด 55,329 เข็ม จำนวน 39,491 คน
วันที่ 22 กรกฎาคม 2564 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง เปิดเผยข้อมูลสรุปการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ข้อมูล ณ เวลา 09.00 น. สะสมทั้งหมด 55,329 เข็ม แยกเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 39,491 คน และเข็มที่ 2 จำนวน 15,838 คน มีผู้ได้รับวัคซีนไปทั้งหมด 39,191 คน จำแนกเป็น บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ร้อยละ 15.4 อสม. ร้อยละ 15.2 ผู้สูงอายุ 37.8 ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 โรค ร้อยละ 8.5 และผู้มีโอกาสสัมผัสผู้ติดเชื้อ ร้อยละ 23 สำหรับข้อมูลการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 จากหมอพร้อม ภาพรวมของประเทศ ณ วันที่ 21 กรกฎาคม 2564 เวลา 23.33 น. สะสมทั้งหมด 15,092,150 โดส แยกเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 11,546,113 ราย และเข็มที่ 2 จำนวน 3,546,037 คน
จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด 19 ในประเทศไทย พบการติดเชื้อไวรัสสายพันธ์กลายพันธ์ เช่น สายพันธ์เดลตา เพิ่มสูงขึ้นเป็นจำนวนมาก ประเทศไทยจึงได้ทำการศึกษาการฉีดวัคซีนโดยการสลับชนิดวัคซีนพบว่า การฉีดวัคซีน "ซิโนแวค" เป็นเข็มที่ 1 และการฉีดวัคซีน "แอสตราเซเนกา" เป็นเข็มที่ 2 สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสให้อยู่ในระดับที่สูงได้เร็วมากขึ้น โดยสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีใกล้เคียงกับการฉีดวัคซีน แอสตราเซเนกา 2 เข็ม และมีประสิทธิภาพดีในการป้องกันไวรัสสายพันธ์เดลตา จากการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติฯ เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2564 และการประชุมคณะกรรมการอำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด 19 วันที่ 15 กรกฎาคม 2564 จึงมีมติเห็นชอบการฉีดวัคซีนสลับชนิด และศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด 19 ได้แจ้งให้ทุกจังหวัดดำเนินการฉีดวัคซีนโควิด 19 สลับชนิดแก่ประชาชนทุกคน ในกรณีที่ได้รับเข็ม 1 เป็นแอสตราเซเนกาไปแล้ว เข็ม 2 ฉีดแอสตราเซเนกาเช่นเดิม โดยมีระยะห่างระหว่างเข็ม 12 สัปดาห์
ดังนั้น ผู้ที่มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป และผู้มีโรคประจำตัว 7 โรค ในจังหวัดลำปางที่ได้ลงทะเบียนไว้กับแอปหมอพร้อมเดิม ขอให้มาฉีดวัคซีนตามนัดหมาย ทั้งนี้จะได้รับการวัคซีนโควิด 19 แบบสลับชนิด คือ เข็ม 1 ฉีดซิโนแวค และเข็ม 2 ฉีดแอสตราเซเนกา โดยมีระยะห่างระหว่างเข็ม 4 สัปดาห์
https://region3.prd.go.th/region3_ci/topic/news/33872