บุคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ได้รับการจัดสรรจาก อว. รอบแรก 290 คน ขณะที่ อว. เผยไทยฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้สูงสุดในอาเซียน มากถึง 14,223,762 โดส
คณะผู้บริหาร คณาจารย์ และเจ้าหน้าที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 อำเภอเมืองลำปาง บริเวณหอประชุมฝ้ายคำ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครลำปาง ซึ่งได้รับการจัดสรรจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) รอบแรก เข็มที่ 1 จำนวน 290 คน ซึ่งเป็นไปตามลำดับรายชื่อที่แต่ละหน่วยงานภายในส่งถึงมหาวิทยาลัย
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ที่ได้ติดตามวิเคราะห์สถานการณ์การติดเชื้อและการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในกลุ่มประเทศอาเซียนอย่างใกล้ชิด และใช้ข้อมูลทางวิชาการในการร่วมบริหารสถานการณ์ พบว่า ประเทศไทยได้ฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
โดยสำหรับประเทศขนาดใหญ่ในกลุ่มอาเซียนที่มีประชากรมากกว่า 50 ล้านคน ได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ไทย และ พม่า นั้น ซึ่งประเทศไทยสามารถฉีดวัคซีนได้สูงที่สุดตามสัดส่วนประชากร โดยมีคนที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกแล้วถึง 16.3% ของประชากร ตามด้วยอินโดนีเซีย (15.1%) ฟิลิปปินส์ (9.1%) เวียดนาม (4.1%) และ พม่า (ประมาณ 3.1%)
สำหรับในแง่จำนวนการฉีดวัคซีน อินโดนีเซีย ซึ่งมีประชากรถึง 275 ล้านคน ได้ฉีดวัคซีนแล้ว 57,947,614 โดส โดยมีประชากรได้รับวัคซีนเข็มแรกแล้ว 15.1% และครบ 2 เข็มแล้ว 5.9% ในขณะที่ไทยฉีดวัคซีนแล้ว 14,223,762 โดส คิดเป็นเข็มแรก 16.3% และเข็ม 2 5.2% (ข้อมูล ณ วันที่ 18 ก.ค. 64)
ส่วนประเทศขนาดเล็กในกลุ่มประเทศอาเซียนที่มีประชากรน้อยกว่า 50 ล้านคน ซึ่งได้แก่ มาเลเซีย กัมพูชา ลาว สิงคโปร์ และบรูไน นั้น จะมีร้อยละการฉีดวัคซีนต่อประชากรค่อนข้างสูง คือ สิงคโปร์ มีผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรกแล้ว 4,118,334 คน (69.9% ของประชากร) ตามด้วยกัมพูชา 5,767,616 คน (34.1%), มาเลเซีย 9,570,974 คน (29.3%), บรูไน 106,556 คน (24.2%) และลาว 1,050,818 คน (14.3%) ตามลำดับ

?https://region3.prd.go.th/region3_ci/topic/news/33799